ตั้งแต่ผมทำงานมาหลายสิบปี...
ผ่านวิกฤติหนักๆมาก็หลายหน...
ทั้งปี 40, ความไม่สงบทางการเมือง, น้ำท่วม...
ครั้งนี้ก็เป็นอีกหนที่ท้าทาย...
วิกฤติก่อนหน้านี้...อยู่ในฐานะพนักงานประจำ...
และในฐานะที่เคยนำพาองค์กรผ่านวิกฤติแบบนี้มาแล้ว...
เลยอยากเล่าให้ฟังแบบนี้...
สิ่งหนึ่งที่ผมแนะนำให้เจ้าของธุรกิจ...
ทำเป็นอย่างแรก...ในภาวะวิกฤติแบบนี้คือ...
เราในฐานะที่เป็น “เบอร์หนึ่ง” ขององค์กร...
เราจะต้องไม่ตื่นตระหนกเสียเองครับ...
แน่นอน...อาจมีขวัญเสียบ้างก็เป็นเรื่องปรกติ...
แต่ทุกอย่างต้องเก็บไว้ในใจลึกๆ...
เหมือนๆบ้านเราเวลาเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง...
ฟ้าผ่าเปรี้ยงๆ...ถ้าเราเกิดตื่นตระหนกคนเป็นแรก...
เอะอะโวยวายเสียงดัง...
ลองคิดดูว่่าสมาชิกในบ้านยิ่งจะขวัญเสียแค่ไหน....
อย่างที่สอง...ที่เราควรทำก็คือ...
สื่อสารให้กับพนักงานในทุกระดับ...
ในกรณีที่บริษัทฯเราไม่ใหญ่มาก...
หรือถ้าจำนวนจำนวนคนเยอะมาก...
เราก็เชิญเฉพาะบรรดาหัวหน้างาน...
เพื่อบอกในสิ่งที่เราเผชิญอยู่...
และมาตรการที่กำลังจะเกิดขึ้น...
สิ่งที่สำคัญที่สุดมีอยู่ 3 ประการก็คือ...
1.น้ำเสียง...
แม้เหตุการณ์มันจะเลวร้ายขนาดไหน...
น้ำเสียงของผู้นำ...จะต้องเป็นธรรมชาติ...
พูดอย่างมั่นใจ...สบายๆ...
ที่สำคัญต้องไม่มีความตื่นตระหนกในน้ำเสียง...
2.ไม่พูดเกินความเป็นจริง...
ไม่ดี...และไม่เลวร้ายเกินเหตุ...
ให้นึกไว้เสมอว่า...ในแง่การสื่อสารแล้ว...
เวลาที่สารส่งไปถึงพนักงานในระดับล่างๆลงไป...
มักจะ “ดีเกิน”...หรือ “แย่เกิน” อยู่เสมอ...
ถ้าต้นทางโอเวอร์แล้ว...ปลายทางจะยิ่งบานปลาย...
3.อาจจะมีคำถามที่เขาจะถามบ้าง...
ตรงนี้เราต้องหาวิธีการตอบที่สร้างสรร...
เช่น...เขาอาจจะถามว่า...
จำเป็นต้องปลดพนักงานมั๊ย...
ถ้าเป็นผมจะตอบว่า...
“วันนี้เรายังไม่มีนโยบายแบบนั้น...
เพราะเรารู้ดีว่าทรัพยากรบุคคล...
เป็นส่วนสำคัญที่สุดขององค์กร...
ก่อนหน้านี้เราก็เคยผ่านวิกฤติร้ายๆมาด้วยกัน...
เรายังช่วยๆกันผ่านมาได้...
ครั้งนี้ก็เช่นกัน...
ถ้าเกิดจำเป็นจริงๆ...วิธีการแก้ไขปัญหาแบบนี้...
จะเป็นทางเลือกสุดท้าย...
ตอนนี้รู้แต่เพียงว่าอยากจะให้ทุกคน...
ช่วยๆกันทำงานในวันนี้ให้เต็มที่ก่อน”
หรือคำถามที่ว่่า...
“แล้วเหตุการณ์แบบนี้...จะอยู่อีกนานมั๊ย”..
ขืนไปตอบว่า...“ผมคิดว่าเหตุการณ์นี้...
น่าจะอยู่อีกหลายเดือนหรือเป็นปี”
ซึ่งตรงนี้ “ไม่”แนะนำให้พูดครับ...
เพราะเป็นการคาดคะเนจากตัวเราเอง...
จากการที่เราได้รับข้อมูลจากสื่อออนไลน์ต่างๆ...
มันอาจจะเป็น Fake News...
ไม่ใช่ “Fact” News...ก็เป็นได้...
แต่ถ้าบอกว่า...
“ข้อเท็จจริงยังไม่ทราบได้เหมือนกัน...
แต่ถ้าดูจากเมืองจีน...ไต้หวัน...
หรือญี่ปุ่น...และดูแนวโน้มวันนี้ของบ้านเรา...
ก็มีโอกาสว่าเราน่าจะเข้าสู่เหตุการณ์ปรกติ...
ได้ในเร็ววัน...ดูอย่างประเทศจีน...
ตอนนี้ก็เร่ิมดีขึ้นเยอะแล้ว...
บ้านเราเรียนรู้จากประเทศที่โดนก่อน...
อันนี้ถือว่าเป็นความโชคดีของเรา”...
สุดท้ายอยากจะฝากไว้อีกนิดนึงว่่า...
“ภาวะผู้นำ” ของเรา...มักจะแสดงออกมาเสมอ...
เมื่ออยู่ในภาวะวิกฤติครับ...
จงใช้โอกาสนี้สร้างศรัทธาให้กับทีมงานครับ...
นานๆจะมีซักที...
บทความทั้งหมดนี้ไม่มีลิขสิทธิ์...
สามารถเผยแพร่ได้ตามที่เห็นสมควรเลยครับ...
-บุ้ง ดีดติ่งหู-
Marketing&Sales Consultant
The Underdog Marketing
Line id: wichawut_boong
email: [email protected]
FB: @boong.marketing
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า