ChatGPT มันใช้งานได้เยอะมาก ขอสรุปการเข้าใจเบื้องต้นเพื่อใช้สำหรับงานขายเป็นประมาณนี้👇
1. ตอนนี้ถ้าเล่นในมือถือจะ App คล้ายๆกันเพียบ โลโก้ก็ใกล้เคียงกันมาก แต่ตัวที่ผมใช้เวลาชื่อว่า “ChatGPT”
2. “Chat GPT” ปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 Version คือ GPT3.5 เป็นเวอร์ชั่นใช้ฟรี กับ GPT-4 อันนี้เสียเงิน ผมใช้ Version นี้แหละ แต่ใช้ Package ตัวต่ำสุดคือจ่ายเดือนละ 20 USD (ประมาณ 700 บาท) เพราะจำเป็นต้อง Upload ไฟล์เข้าในระบบ เพื่อนำไปสู่การวิเคราะห์ข้อมูล
3.ข้อดีอีกประการหนึ่งที่ใช้ Version แบบจ่ายตังค์คือ การประมวลผล ผมว่ารวดเร็วกว่า Version 3.5 เยอะ ก่อนหน้านี้เคยใช้ เข้าใจว่าช่วงไหนที่คนใช้เยอะจะมีปัญหาเรื่องการประมวลผลของระบบค่อนข้างมาก แน่นอนเมื่อจ่ายตังค์แล้วก็ควรจะดีกว่าเน๊อะ...มิฉะนั้นจะจ่ายเพื่อ....
4.การ Upload ไฟล์เข้าจำเป็นจะต้องติดตั้ง Plug-in ตัวหนึ่งที่ชื่อว่า “Code Interpreter” โดยมันจะทำหน้าที่แปลงไฟล์ แล้วแปลงเป็น Code หรือภาษาที่ AI เข้าใจ ถ้าเป็นตัวฟรีก็ทำได้เหมือนกันแต่ต้องเขียน Code คำสั่งเป็น ตอนนี้ File ที่ใส่เข้าไปถ้าเป็นตระกูลพวก Microsoft หรือ PDF เขาจะรู้จักค่อนข้างดี แต่ถ้าเป็นไฟล์ประเภทอื่น เช่น ไฟล์จากเครื่องแมค น้องเขาต้องไปจุดธูปคุยกับคุณ Steve JOBS บน Clounds ก่อน ตอนนี้ยังดิวกันไม่จบ
5.Plug-in ใน 4.0 มีให้เลือกหลายตัว แต่เลือกใช้งานได้สูงสุด 3 ตัว อย่างบางตัวก็น่าสนใจเชียว เช่น การทำ Mindmap, หรือ Expedia เข้าใจว่าอีกหน่อย ChatGPT น่าจะพัฒนาประมาณว่าช่วยวางโปรแกรมท่องเที่ยวไว้ให้ หลังจากนั้นก็น่าจะจองโรงแรม จองตั๋วเครื่องบินได้เลย
6.แม้บางครั้ง ChatGPT จะให้คำแนะนำ หรือมีบทสรุปอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เรื่องของการตัดสินใจต้องเป็นภาระของ User ให้มองว่า AI เป็นเพียง “Second Opinion” เท่านั้น
7.หัวใจของการการให้ ChatGPT ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ นั่นคือ User ต้องสั่งงานชัดๆ ถ้าเป็นไปได้ต้องร่างวิธีการคร่าวๆในหัวก่อนเสมอ ถ้าในหัวเราร่างขั้นตอนการทำงานได้ ChatGPT ย่อมทำได้แน่นอน
8.ChatGPT จะคล้ายเด็กอนุบาลเมื่อตอน User ได้คุยกับเขาประโยคแรกๆ แต่พอคุยไปคุยมาเรื่อยๆ หรือข้อมูลที่เราให้ละเอียดพอ คราวนี้แหละ AI จะฉลาดมากๆ เพราะฉะนั้นต้องใจเย็นๆ และสั่งงาน AI ให้รู้เรื่อง
9.ChatGPT เปรียบเสมือน “ผู้ช่วย” ชั้นดี ที่ไม่มีเวลาพักผ่อน จะให้ช่วยเวลาไหนก็ได้ แต่ก็มีบ้างบางครั้งที่เขาอาจจะเอ๋อๆ หน่อย น่าจะเกิดจากมีคนใช้งานเยอะ
10.พูดดีๆ ไพเราะหน่อย AI ก็ตอบมาดี แต่ถ้าพูดห้วนๆ ไม่มีหางเสียง AI ก็ใช้อารมณ์ประมาณเดียวกัน ดังนั้นถ้าท่านเป็นผู้จัดการฝ่ายขายที่ชอบพูดจาเสียงดัง พูดจาไม่ค่อยเข้าหูลูกน้อง แนะนำให้ใช้ AI ดีกว่าจ้างลูกน้อง เพราะ AI ไม่มีอารมณ์โกรธ ณ เวลานี้ อนาคตไม่แน่ สรุปคือก็พูดจาดีๆเข้าให้หูทั้งคน ทั้งเครื่อง มันก็แค่นั้น
บทความนี้เผยแพร่ได้ตามสะดวก ที่สำคัญมาจากสมองมนุษย์ มิใช่ AI 555
😁😍🙏
-บุ้ง ดีดติ่งหู-
Marketing&Sales Consultant
Underdog Consulting
Line id: wichawut_boong
Email: [email protected]
Mobile: 089-7991949
#ChatGPT #วางระบบทีมขาย #SalesTech #ผู้จัดการฝ่ายขาย #งานแบบนี้ต้องตัวจริงเท่านั้น #บุ้ง #ดีดติ่งหู #underdog
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า