คำถามที่เป็น “ดีฟอลท์” ...
หรือเป็นคำถามที่ถูกถาม“ทุกครั้ง” ห้องสัมมนา...
จะมีอารมณ์ประมาณนี้...
“โดนคูแข่งตัดราคา..ทำยังไงดี”...
ผมขอแนะนำซัก 7-8 ทางเลือกที่ผมเคยทำมาแล้ว...
ทางเลือกที่ 1: กัดฟันกรอดๆ...
แล้วตัดราคาเฉือนเนื้อตัวเองลงไปอีก...
วิธีการนี้ถ้าคิดจะทำจริงๆ ...
ท่านต้องเพิ่มปริมาณขายให้มากขึ้น...
เพื่อชดเชยเม็ดเงินกำไรที่หายไป...
แม้เปอร์เซ็นต์กำไรลดลง...
แต่กำไรที่เป็นเม็ดเงินจะมากขึ้น...
มิฉะนั้นแล้ว ธุรกิจของท่าน...
อาจจะอยู่ในภาวะธุรกิจถดถอยก็ได้...
หมายถึงยิ่งขายมาก...
กลับทำให้กำไรน้อยลงไปเรื่อยๆ...
หนักไปกว่านั้น...
ถ้าตัดราคาลงมากจนเกินไป...
จนไปกินส่วนที่เป็นต้นทุนสินค้า...
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ต้นทุนบริหาร”...
ซึ่งบรรดาเจ้าของธุรกิจ SME ส่วนมาก...
มักจะมองข้ามต้นทุนตรงนี้ไป...
คราวนี้มันแหละครับ มันเป็นไปได้เลยที่ว่า
“ยิ่งขาย…ยิ่งขาดทุน”...
ทางเลือกที่ 2:
เพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่...
วิธีการนี้ตรงไปตรงมาที่สุดแล้ว...
หลายครั้งผมพบว่า...
ที่เราขายสินค้าไม่ได้ราคา...
โดนคู่แข่งตัดราคาอยู่เรื่อยๆ...
สาเหตุหลักมาจาก...
บริษัทฯนั้นมีจำนวนลูกค้าน้อยเกินไป...
เซลส์เน้นขายเฉพาะลูกค้ารายใหญ่ๆ...
รายรองลงไปกลับไม่ได้สนใจ...
ลูกค้ารายใหญ่...
ทุกบริษัทฯก็อยากขาย...
เพราะฉะนั้น...หนีไม่พ้นเรื่องของ...
การตัดราคาครับ...
ทางเลือกที่ 3:
เพิ่มไลน์สินค้าสินค้าใหม่เข้าไปในลูกค้ารายเดิม...
วิธีการนี้...เสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด...
ก็เขาเป็นลูกค้าของเราอยู่แล้ว...
เพราะฉะนั้น...ถ้าทีมขายเราเอาใจใส่ซักหน่อย...
การเพ่ิมไลน์สินค้าเข้าไป...
ก็ไม่น่าจะใช่เรื่องใหญ่...
ยิ่งถ้าเป็นสินค้าประเภท High Margin ด้วยแล้ว...
เราก็สามารถ “ขายถัว”ได้...
ตัวไหนแข่งขันกันสูง...
ไหนๆจะเปิดหน้าสู้กันด้วยราคาแล้ว...
เราก็จัดหนัก...ทำสินค้าตัวนี้ให้เป็น
Lost Leader ซะเลย...
แล้วเอากำไรตัวที่อื่นที่ทำกำไรมากกว่า...
มาชดเชยตัวที่ขาดทุน...
ทางเลือกที่ 4: หาทางวิธีลดต้นทุนสินค้า...
หรือต้นทุนบริหาร...
เช่น..
- ลดจำนวนพนักงานลง...
- หาสิทธิพิเศษทางภาษี...
- หาวิธีการผลิตใหม่...
- ต่อรองหรือเปลี่ยนซัพพลายเออร์...
นอกจากจะหาวิธีการลดต้นทุนโดยตรงแล้ว...
อยากจะแนะนำให้ดูเรื่อง...
การลดต้นทุนทางอ้อมก็คือ...
หาวิธีช่องทางการขาย...
หรือวิธีการทำตลาดใหม่ๆ...
เพื่อขายสินค้าให้มากขึ้น...
ออนไลน์ทำอะยัง?...
ผมเคยให้ลูกค้าผมรายหนึ่ง...
แต่เดิมมีแต่ website...
เพื่อประชาสัมพันธ์บริษัทอย่างเดียว...
แต่ตอนนี้...เขามีทั้ง...
website สำหรับขายปลีก...
website สำหรับขายส่ง...
หน้าเพจสำหรับแม่ค้าออนไลน์...
การเพิ่มช่องทางการขาย..
จะทำให้ขายมากขึ้น..
เลยต้องผลิตมากขึ้น...
ต้นทุนการผลิตก็สมควรจะลดลง...
ตามหลักการประหยัดเชิงขนาด...
หรือภาษาฝรั่งเรียกว่า “Economy of scale”…
ทางเลือกที่ 5:
ปรับภาพลักษณ์ในใจของผู้บริโภคซะใหม่
หรือการ Re-positioning...
ปรับเพจเกจจิ้งใหม่...
เปลี่ยนโลโก้สินค้า...ให้หรูหราไฮโซยิ่งขึ้น...
เปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายใหม่...
ปรับขนาดบรรจุใหม่...
หลังจากนั้นก็ปรับราคาขึ้น...
ทางเลือกที่ 6:
กระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ (Diversify)...
ถ้าในธุรกิจเดิมเราอาจสู้ไม่ได้จริงๆ...
ก็ให้หาธุรกิจอื่นทำ...
เพื่อเอากำไรจากธุรกิจใหม่มาต่อสู้ในธุรกิจเดิม...
ทางเลือกที่ 7: ขายธุรกิจเราให้คู่แข่งไป...
หรือร่วมทุนกับผู้ลงทุนรายใหม่...
เพื่อสร้างฐานด้านการเงิน...
ฐานลูกค้าใหม่...
หรือพัฒนาเทคโนโลยี่ร่วมกัน...
ทางเลือกที่ 8:
เปลี่ยนโมเดลธุรกิจเลยครับ...
เช่น..แต่เดิมเคยขายออฟไลน์...
เปลี่ยนมาเน้นออนไลน์...
เดิมเคยเน้นการเก็บสต๊อก...
เพื่อให้ได้ต้นทุนถูกที่สุด...
แต่ตอนนี้เน้นการ Pre Order...
ขอบอก...ทางเลือกนี้...
มี Case Study…
ที่เขาทำแล้วจริงๆนะครับ...
ลองอ่านในบทความ...
Case Study ของกลุ่มธุรกิจ...
อีซีโฮม...และเซ้นต์มอลล์...
ใน website นี้แหละครับ...
อันนี้แค่เป็นบางทางเลือก...
เท่าที่ผมคิดออกตอนนี้นะครับ...
เพราะฉะนั้น...
ผมอยากจะแนะนำให้ท่านลองนั่งนิ่งๆ...
แล้วค่อยๆนึกนะครับ...
เชื่อดิ ยังมีความคิดดีๆอีกมาก...
ที่เราไม่จำเป็นต้องตัดราคา...
โดยที่เรายังสามารถ...
ดำเนินธุรกิจต่อไปอีกได้ครับ...
บทความทั้งหมดนี้ไม่มีลิขสิทธิ์
สามารถเผยแพร่ได้ตามสะดวกครับ
-บุ้ง ดีดติ่งหู-
Marketing & Sales Consultant
FB: @Boong.marketing
LINE ID: wichawut_boong
email: [email protected]
website: www.underdog.run
Mobile: 089-7991949
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า