สาเหตุหลักๆที่บริษัทฯขนาด SME...
เจอปัญหาเรื่องยอดขายแต่ละปีเร่ิมเตี้ยลงๆ...
หนักไปกว่านั้นก็คือ...
ยอดขายปีนี้...ต่ำกว่าปีที่แล้ว...
นั่นก็คือ...
ตัวผู้บริหารไม่ค่อยได้...
ออกตลาดเยี่ยมลูกค้า...
หรือที่ฝรั่งเขาเรียกว่า...
“Market Visit”...
ปีแรกๆตอนที่เร่ิมธุรกิจใหม่ๆ...
ลูกค้ายังไม่เยอะมากนัก...
ยังพอมีเวลาออกหาลูกค้าสม่ำเสมอ...
พอลูกค้าเยอะมากขึ้น...
ยอดขายก็พุ่งพรวด...
คราวนี้เกิดปัญหาใหม่ก็คือ...
ต้องมาเสียเวลา...
ในการแก้ปัญหาหลังบ้าน...
สต๊อกไม่พอขาย...
ส่งสินค้าไม่ทัน...
คนงานในไลน์ผลิตไม่พอ...
==========================
เลยต้องจ้างผู้จัดการฝ่ายขาย...
มาช่วยดูงานส่วนนี้ให้...
ดูแลทั้งลูกค้า...ดูแลทั้งทีมเซลส์...
ถ้าได้คนดีมากๆ...ก็ถือว่าโชคดีไป...
ผมเชื่อว่าบริษัทฯส่วนใหญ่...
น่าจะได้หัวหน้าเซลส์ดีๆแบบนี้...
หรือถ้าได้คนแย่สุด...
ผมก็ยังถือโชคดีเหมือนกัน...
เพราะถ้าเจ้าของไหวตัวทัน...
ก็จัดการเชิญตัวออกไปซะก่อน...
ความเสียหายก็ถูกจำกัดเอาไว้ได้...
แต่ถ้าได้ผู้จัดการกึ่งดี...กึ่งแย่...
อันนี้มันจะเหมือนปลวก...
ที่ค่อยกัดกินธุรกิจของเราไปทุกวันๆ...
“ดี”...หมายถึง...
สามารถช่วยเราเรื่องการขาย...
ได้เป็นอย่างดี...
แก้ปัญหาได้ทุกอย่าง...
============================
แต่ที่ “แย่มากๆ”...ก็คือ...
พอทำไประยะหนึ่ง...
พอโดนซื้อตัวจากบริษัทคู่แข่ง...
เขาก็สะบัดตูดจากเราไปทันที...
ไปคนเดียวไม่พอ...
แถมชวนเซลส์แมนมือดีของเราไปอีก...
เท่านั้นยังไม่หนำใจ...
เอาลูกค้าของเราไปด้วย...
==========================
หลายบริษัทฯที่จ้างผมไปเป็นที่ปรึกษา...
หลังจากที่เจอปัญหาทำนองนี้...
เพราะฉะนั้น...สิ่งที่สำคัญที่สุด...
เพื่อป้องกันปัญหานี้ก็คือ...
ตัวเจ้าของเอง...
จะต้องออกตลาดไปเยี่ยมลูกค้า...
อย่างสม่ำเสมอครับ...
ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า...
ท่านจะต้องไปเยี่ยมลูกค้าราวกับว่า...
ท่านเป็นเซลส์แมนนะครับ...
แบบนั้นมันก็เกินไป...
==========================
ผมชอบแนะนำลูกค้าในการแบ่งเวลา...
การออกตลาดโดยใช้ “กฎ 80/20”...
มาเป็นกรอบแนวความคิด...
ลูกค้ารายใหญ่...ที่มีสัดส่วนยอดขาย...
80% ของยอดขายรวม...
เจ้าของควรจะไปเยี่ยม...
อย่างน้อย...ปีละ 2 ครั้ง...
ต้นปีครั้งหนึ่ง...เอากระเช้าปีใหม่ไปให้...
หรืออาจจะเป็นปลายปีก็ได้...
ในช่วงการทำ Business Review…
อีกครั้งหนึ่ง...
ก็อาจจะเป็นช่วงพิเศษของลูกค้า...
เช่น...วันเกิด...
หรืองานแต่งงานลูกๆของเขา...
หรือไม่ก็เป็นช่วงหน้าฝนนั่นเลย...
ไปทั้งหัวเปียกๆนั่นแหละ...
ลูกค้าเขาจะได้รู้ว่าเราตั้งใจจริงๆ...
อีกอย่าง...หน้าฝนของเกือบทุกธุรกิจ...
(ยกเวัน...ธุรกิจการเกษตร)...
ตัวลูกค้าเอง...เขาก็ไม่ค่อยยุ่งอยู่แล้ว..
เพราะเป็นช่วง Low Season...
===========================
เล่ามาถึงตอนนี้...
อยากจะนำเสนอไอเดีย...
ที่ผมตั้งชื่อมันว่า “อาคูเลเล่ โมเดล”...
ทำไมต้องเป็น “อาคูเลเล่” ด้วยละ...
เพราะเครื่องดนตรีดังกล่าว...
รูปร่างหน้าตาประมาณ..
กีตาร์ขนาดย่อส่วน...
ก็คงเปรียบเสมือนบริษัทขนาดเล็กๆ
ของเรานั่นเองแหละครับ...
ตัวมันเองมีสายอยู่ 4 เส้น...
เหมือนกับเส้นทาง...
ในการติดต่อกับลูกค้า....
=========================
เร่ิมต้นด้วย....
เส้นที่สี่...เส้นบนสุด...ให้เสียงใหญ่ที่สุด...
เหมือนเจ้าของกิจการเอง...
เส้นที่สาม...ผู้จัดการฝ่ายขาย
หรือเซลส์ซุปเปอร์ไวเซอร์...
เส้นที่สอง...เซลส์แมน...
และเส้นที่หนึ่ง....เส้นเล็กสุด...
อยู่เส้นล่างสุด...หมายถึง...
การที่ให้ฝ่ายแอดมินของเรา...
ติดต่อกับลูกค้าบ้างเป็นระยะๆ...
เพื่อถามสารทุกข์สุกดิบ...
หรือเป็นเชคความพึงพอใจบริษัทฯของเรา...
“สินค้าส่งครบหรือยังค่ะ?”
“การบริการของเซลส์เราเป็นยังไงมั่งค่ะ?”
“ของที่ส่งไปไม่พอเหรอค่ะ...
เดี๋ยวจัดการให้ตอนนี้เลยค่ะ”
เมื่อเราจัดช่องทางการติดต่อ...
ไว้ตามโมเดลนี้แล้ว...
แม้เส้นที่สอง สาม...จะขาดไปบ้าง...
เราก็เหลืออีกตั้ง “สองเส้น”...
เป็นอย่างน้อยครับ...
==========================
เส้นไหนขาด...
เราก็แค่หามาเปลี่ยน...
ก็แค่นั้นครับ...
-บุ้ง ดีดติ่งหู-
Marketing&Sales Consultant
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า