คำถามนี้ผมเคยถูกถามจากเจ้าของ SMEs...
เลยขออนุญาตตอบผ่านเนื้อที่ตรงนี้ซะเลย...
น่าจะพอมีประโยชน์กับท่านอื่นบ้าง...
ต้องขอสารภาพตามตรงว่า...
ในแต่ละบริษัทที่ผมเคยทำงานมา...
ยังไ่ม่เคยได้คำนวณเรื่องนี้...
แบบเป็นจริงเป็นจังซักที...
โดยเฉพาะในมุมมองของ...
การขายและการตลาด...
เพราะผมเห็นว่ามันไม่น่าจะเกี่ยวกัน...
ถ้ารถคันนั้นมียอดขายสูง...
จะส่งผลให้กินน้ำมันมากขึ้นหรือครับ?...
ผมว่าไม่น่าจะใช่มั๊งครับ...
การที่รถยนต์จะกินน้ำมันมากหรือน้อย...
มันขึ้นอยู่กับระยะทางหรือพื้นที่การขาย...ไม่ใช่ยอดขายครับ!!!
หลักการในการคำนวณค่าน้ำมันก็คือ...
ต้องคำนวณมาจากว่าระยะทาง...
หรือพื้นที่ที่เรามอบหมายให้เซลส์...
หรือรถคันนั้นเขารับผิดชอบ...
มันเพียงพอต่อการเดินทางไปทำงานหรือไม่ต่างหากครับ...
1.สมมุติว่ารถกระบะหนึ่งคัน...
กินน้ำมัน 20 กม. / ลิตร...
2.ระยะทางจากออฟฟิศเรา...
ไปถึงพื้นที่ขาย...
เป็นระยะทาง 100 กม. (ใช้น้ำมัน 5 ลิตร)...
3.เพราะฉะนั้นไปกลับก็รวมเป็น 200 กม...
จึงใช้น้ำมัน 10 ลิตร เป็นอย่างน้อย...
4.ความเป็นจริงเราต้องเผื่อการวิ่ง...
ระหว่างร้านค้าด้วยตามสมควร อย่างเช่น...
ถ้าวิ่งในจังหวัดเล็กๆ...
เราก็อาจจะเผื่อให้ซัก 4-5 ลิตร...
เท่านี้ก็เหลือเฟือแล้ว...
เพราะฉะนั้นวันๆหนึ่งเขาก็ใช้น้ำมัน...
ไม่เกินวันละ 25 ลิตร...
ผมเข้าใจหัวอกของคนที่เป็นเจ้าของธุรกิจดีครับ...
เพราะเจอทุกวัน...ทำงานด้วยกันทุกวัน...
เมื่อไรที่ยอดขายไม่สูงนัก..
พอหารเฉลี่ยค่าน้ำมันออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์...
บางครั้งก็ตกใจเป็นเรื่องธรรมดา...
เพราะฉะนั้นเราต้องพยายามผลักดัน...
ให้เซลส์ของเราขายสินค้าให้มากขึ้นครับ...
หรือต้องไปลงรายละเอียดว่า...
ทำไมเซลส์ของเราใช้น้ำมันรถมันสูงแบบนี้ เช่น...
เซลส์แมนของเราทำไซด์ไลน์...
เอาสินค้าประเภทอื่นมาขาย...
ปนกับของเราหรือเปล่า...
วิ่งแค่ 10 กม. แต่เบิกค่าน้ำมันซัดเข้าไป 10 ลิตร
ผมว่าลงเป็นแบบนี้...
เราต้องรีบเข้าไปจัดการแล้วครับ...
หรือเขาไม่ได้โกงจริงๆ...
ถ้าเผอิญเดือนนั้นเกิดฟลุ๊ก...
เซลส์เขาเกิดขายได้มากกว่ายอดขายเฉลี่ย 3 เท่า...
เพราะลูกค้าเขาสินค้าขาดพอดี...
เลยเหมาเอาสินค้าทั้งหมด...
พอหารค่าน้ำมันออกมาเหลือแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์...
ถ้าเป็นแบบนี้ถือว่าถูกต้องหรือครับ?...
เราควรจะดีใจกับค่าเฉลี่ยนี่หรือ?...
ผมว่าตรรกะมันจะแปลกๆนิดหน่อยนะ...
ขอเรียนแนะนำเพิ่มอีกนิดหนึ่งครับ
วิธีการลดค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าน้ำมัน...
สามารถทำได้อีกวิธีการหนึ่งคือ...
การจัดเส้นทางการเข้าเยี่ยมร้านค้าซะใหม่...
หรือเรียกว่าการ Re-routing...
ผมเคยทำมา 2-3 ครั้งแล้ว ช่วยได้เยอะนะครับ
ทำให้การส่งสินค้าไม่มั่วไปมั่วมา...
สิ้นเปลืองน้ำมันเปล่าๆ...
สรุปย้ำอีกครั้งหนึ่ง...สำหรับเจ้าของธุรกิจ...
ที่พยายามที่จะเอาค่าน้ำมัน...
มาหารโดยตรงกับยอดขาย..
ผมว่าไม่ได้ประโยชน์อะไรเท่าไรนะครับ...
บทความและเนื้อหาทั้งหมดนี้...
สามารถเผยแพร่ได้โดยสะดวกครับ...
-บุ้ง ดีดติ่งหู-
Marketing&Sales Consultant
The Underdog Marketing
Line id: wichawut_boong
email: [email protected]
Phone: 089-7991949
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า