คำถามแรกๆที่ผมเจอเสมอ...
เวลาที่ไปบรรยาย...
หรือไปทำงานเป็นที่ปรึกษา...
การตลาดแบบ “หมารองบ่อน”...
มันคืออะไร?...มีแนวคิดยังไง?
มีวิธีการปฎิบัติอย่างไร?...
ขอสรุปง่ายๆแบบนี้ครับ...
มันคือวิธีการทำตลาดของธุรกิจ...
ขณะที่เรา“เป็นรอง”คู่แข่งในตลาด...
ทั้งเรื่อง...ยอดขาย...
หรืองบประมาณการทำตลาด...
ทั้งคู่เรามี “น้อยกว่า” เขาทั้งหมด...
แต่สิ่งที่เรา “สูงกว่า” คู่แข่ง...
กลับกลายเป็น “ต้นทุน”....ฮ่าฮ่าฮ่า...
โดยเฉพาะเรื่องต้นทุนสินค้า...
ก็เราซื้อของจากซัพพลายเออร์...
น้อยกว่าเขานี่...ทำไงได้...
ผมได้แรงบันดาลใจคำว่า “Underdog” นี้...
มาจากหนังฝรั่งเรื่องหนึ่ง...
จากหมาธรรมดา...หน้าตาโง่ๆง่อยๆ...
แต่สุดท้ายได้พลังพิเศษ...
โดยมีพื้นฐานมาจากหมาจิตใจดี...
จาก Underdog กลายเป็น Superdog…
คงเปรียบเสมือนบรรดาเหล่า SMEs...
ที่ต้องแข่งขันในตลาดซึ่งเต็มไปด้วย...
คู่แข่งที่ตัวใหญ่กว่า...
บริษัทฯใหญ่กว่า...
เงินทองเยอะกว่า...
แต่ถ้าเรามีพื้นฐานการเป็นนักธุรกิจที่ดี...
ซื่อสัตย์ต่อลูกค้าเป็นพื้นฐาน...
โอกาสที่จะแปลงร่างเป็น Superdog…
ก็เป็นไปได้ครับ...
แต่กว่าจะได้พลังพิเศษนั้น...
มันต้องมีกำหนดกลยุทธ์...
ต้องมีกรอบแนวความคิดซะก่อน...
แล้วUnderdog Strategy…
มีกรอบความคิดอย่างไรบ้าง?
1.Dog’s Heart: Fighting as Underdog
ปรับจิตใจให้เป็นนักสู้
อันนี้เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดครับ...
จากประสบการณ์ตัวเจ้าของธุรกิจ...
มักไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้...
แต่ทีมงานขาย...หรือทีมงานตลาดนี่ซิ...
เจอประจำ...
โทษโน่นโทษนี่ไปเรื่อยเปื่อย...
ยกเว้น “ตัวเอง”...
เมื่อไรก็ตามที่ยอดขายตก...
หรือขายไม่ได้...
คำตอบที่ผมได้ยิน “ทุกครั้ง” ก็คือ...
“ของเราแพงกว่าคู่แข่ง”...
เหตุผลข้อที่สองที่ตามมาติดๆก็คือ...
“เศรษฐกิจไม่ดี”...
อยากจะอัญเชิญ...
พระบรมราโชวาทบางส่วน...
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว...
ในหลวงรัชกาลที่ 9…
ที่ “บุ้ง ดีดติ่งหู” น้อมนำมาเป็นแนวทาง...
ในการทำงานตลอดเวลาก็คือ...
“ตั้งใจทำงานให้บรรลุผลอย่างซื่อสัตย์...
แม้อยู่ท่ามกลางความขาดแคลน”...
เพราะฉะนั้น...
ถึงแม้ว่าต้นทุนของสินค้าเราจะแพงกว่าคู่แข่ง...
เศรษฐกิจจะดีหรือไม่...
เราก็ไม่ควรจะนำมาเป็น “ข้ออ้าง” ครับ...
เรื่องแบบนี้ใจต้องมาก่อน...
2.Dog’s Head: Be Simple, Stupid and Practical
วางกลยุทธ์การตลาด...
“แบบง่ายๆโง่ๆ...แต่ทำได้จริง”
ผมเชื่อมาโดยตลอดว่า...
กลยุทธ์ที่เหมาะสำหรับชาว SMEs…
ต้องเป็นกลยุทธ์ที่ต้องเรียบง่ายที่สุด...
และต้องทำได้จริง...
แน่นอนครับ...มันต้องใช้ความคิดสร้างสรร...
กล้าคิด...กล้าทำพอสมควร...
อีกอย่างบอกได้เลยว่าเหนื่อยสุดๆแน่นอน...
อย่างล่าสุด...ผมไปทำงานให้กับ...
บริษัทฯหนึ่งซึ่งยอดขายตกลงทุกปี...
โดยฝ่ายขายก็บอกเจ้าของว่า...
เศรษฐกิจไม่ดี...
ตัวเจ้าของก็ใจดีก็ยอมรับสิ่งที่ฝ่ายขายบอก...
สุดท้ายลูกค้าก็หายไปเรื่อยๆ...
จากเดิมในระบบมี 1,400 ราย...
แต่ตอนนี้เหลือแค่ซื้อขายประจำแค่สองร้อยกว่าๆ...
นอกนั้นหายเกลี้ยง...
แล้วแบบนี้ยอดขายไม่ตกก็แปลกแล้ว...
จนผมต้องแนะนำให้ใช้กลยุทธ์...
“Transform Inactive to Active Customer”
เปลี่ยนจากลูกค้าที่เคยซื้อเราแล้วหายไป...
ให้กลับมาซื้อใหม่...
เชื่อมั๊ยครับ...เพียงแค่สองเดือน...
ยอดขายเราดีขึ้นกว่า 20%
3.Dog’s Legs: Be Active not Passive
“ออกหาลูกค้า...ไม่ใช่นั่งรอ”
ในกลยุทธ์นี้ควรจะทำ 2 อย่างในเวลาเดียวกัน...
อย่างแรก...อย่านั่งรอลูกค้าให้มาหาเราครับ...
เพราะในยุคปัจจุบันที่การแข่งขันกันดุเดือด..
คู่แข่งก็เพิ่มขึ้นทุกวัน...
ถ้าเราอยู่เฉยๆโอกาสที่ยอดขายของเรา...
จะถูกแย่งโดยคู่แข่งก็เป็นเรื่องธรรมดา...
ยอมเหนื่อยออกไปหาลูกค้าซักหน่อยได้มั๊ย...
ใช้ออนไลน์เพื่อจูงลูกค้ามาซื้อได้มั๊ย...
อย่านั่งรอให้ลูกค้าเขาเดินเข้ามาหาเราอย่างเดียวครับ...
เพราะมัน “ยาก” เกินไปแล้ว...
สำหรับลูกค้าในยุคนี้...
อย่างที่สอง...ตัวเจ้าของเอง...
หรือฝ่ายการตลาดออกตลาด...
ไปหา Consumer insight…
หรือ Customer’ Need..
ได้หรือเปล่า?
รู้ลึก..รู้จริง...
ในเรื่องความต้องการของลูกค้า...
เป็นปัจจัยที่จะทำให้เรา...
ประสบความสำเร็จครับ...
“ใช้ทรัพยากรที่เรามีอยู่ให้เต็มประสิทธิภาพก่อน”
เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว...
ที่บรรดาเหล่า SMEs อย่างเราๆท่านๆ...
ย่อมมีทุนทรัพย์ทำธุรกิจ...
น้อยกว่าคนอื่นที่ตัวใหญ่กว่า...
เปรียบเสมือนอาหารใน “พุง” ของเรา...
มีน้อยกว่า “พุง” คู่แข่ง...
เพราะฉะนั้น...เราต้องใช้มันให้เต็มประสิทธิภาพ...
เช่น...งบการตลาด...
เราใช้ได้เหมาะสมแล้วหรือยัง...
ไม่ได้บอกว่าห้ามใช้นะครับ...
แต่อยากจะบอกว่า..
อะไรที่ควรใช้ก็ต้องจำเป็นต้องใช้...
ปัญหาอย่างหนึ่งที่มักเจอ...
ใน SMEs ส่วนใหญ่ก็คือ...
ไม่ใช่จัดสรรงบตลาดไม่เหมาะสม...
แต่กลับเป็นว่า...
ไม่เคยวางแผนการตลาดเลยซะด้วยซ้ำ!!!
สิ่งที่ตามมาก็คือ...
ใช้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าซะเป็นส่วนใหญ่...
โดยที่ไม่รู้ว่าเงินที่ใช้ไปนั้น...
มันตอบโจทย์ตรงไหน...
เพื่อวัตถุประสงค์อะไร...
ดังนั้นทุกครั้งที่ผมไปทำงานกับลูกค้า...
จึงเริ่มต้นมาจากสิ่งที่เรามีอยู่ก่อน...
ว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพมันได้ยังไง...
อะไรที่จำเป็นแต่ยังไม่ได้ทำ...
และไม่ต้องใช้เงินมากมาย...
เราจะเลือกทำอันนั้นก่อน...
สิ่งไหนที่ใช้เงินกระจัดกระจาย...
ก็ให้โฟกัสไปที่จุดๆเดียว...
ที่ส่งผลโดยตรงต่อยอดขายก่อน...
สุดท้าย...Underdog Marketing…
เราต้องไม่ใช่หมาขี้ก้าง...
ที่โดนคนอื่นเขาไล่กัด
แต่เราจะต้องเป็นหมาที่ Fit & Firm ครับ
บทความทั้งหมดนี้ไม่มีลิขสิทธิ์
สามารถเผยแพร่ได้ตามสะดวกครับ
-บุ้ง ดีดติ่งหู-
Marketing & Sales Consultant
The Underdog marketing
กรุงเทพฯ
Fanpage: บุ้ง ดีดติ่งหู
LINE ID: wichawut_boong
email: [email protected]
website: www.underdog.run
Mobile: 089-7991949
#บุ้ง #ดีด #วิชาวุธ #ดีดติ่งหู #ต่ิง #มาร์เก็ตติ้งสุดติ่ง #underdog
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า