เวลาที่ผมไปบรรยายแบบ Public Course...

คำถามที่ถูกถามทุกครั้ง...แต่ตอบยากโคดๆ...

นั่นก็คือคำถามที่ว่า...

ทำอย่างไรเพื่อจะเพิ่มยอดขาย?...

เลยจำเป็นต้องออกตัวก่อนเลยว่า...

คงไม่สามารถให้คำแนะนำแบบเฉพาะเจาะจงได้จริงๆ....

เพราะในแต่ละธุรกิจที่ผมไปทำงานด้วย...

จะมีวิธีการเพิ่มยอดขาย...

หรือแก้ไขปัญหาแตกแตกต่างกัน...

ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยของแต่ละแห่ง...

ผมว่าอาชีพผมคงคล้ายๆกับหมอนั่นแหละ…

ถ้าคนไข้เพียงแต่บอกว่าปวดหัว…

ถ้าผมไม่รู้อะไรเลย…

ผมก็คงได้แต่เดาๆ..หรือก็แค่จ่ายยาแก้ปวดหัว

ให้ไปพอทุเลาก่อนเท่านั้น…

ถ้าคนไข้เป็นหนักถึงขนาดเส้นเลือดในสมองแตก…

แม้จะกินยาแก้ปวดซัก 8 กำมือ...

ก็คงช่วยอะไรไม่ได้...

เผลอๆจะตายก่อนกำหนดซะอีก...

---

อย่างไรก็ตาม…ทุกแห่งที่ผมไปทำงานด้วย...

ผมมักจะเร่ิมแก้ไขปัญหา

โดยเริ่มต้นกรอบแนวความคิด…

ตามภาพประกอบนี้ครับ...

ทุกครั้งผมจะมองสิ่งที่เรามีอยู่ก่อน...

แล้วทำให้มัน "ปึ๊ก"ยิ่งขึ้น...นั่นคือ...

ผมมักจะเริ่มจากหมายเลข “1” ก่อน...

(สินค้าปัจจุบัน...ร้านค้าปัจจุบัน)...

เพราะผมเชื่อว่า...

ถ้าธุรกิจนั้นเคยเติบโตมาได้...

แต่ตอนนี้อาจจะ “สะดุด”..

กับปัญหาเรื่องยอดขาย...

ธุรกิจนั้นต้องมีอะไรดีแน่นอน...

ตอนนนี้ก็เพียงแต่อาจลืมเลือน...

หรือมองข้ามไป...ก็แค่นั้น...

งานนี้ต้องขอ Back to Basic ก่อนเลยครับ...

วิธีการแรกที่เบสิคสุดๆก็คือ...

ผมจะลงไปดูรายละเอียด...

เรียงตามรายร้านค้าว่า...

แต่ละร้านค้าขายสินค้าเต็มที่แล้วหรือยัง...

เช่น...ในร้านค้ามีสินค้าขาดสต๊อกหรือไม่?

 

สินค้าที่เราขายปัจจุบัน...

พนักงานขายของเราได้ขายครบทุกตัวแล้ว?...

 

ร้านค้าเป้าหมายที่เรามี...

พนักงานขายของเราได้ไปเยี่ยมร้านค้าครบแล้วหรือไม่

 

ลูกค้าที่อยู่ใน Customer List ของเซลส์...

เป็น Active Customer ซักกี่ราย...

ไม่ใช่ว่ามีรายชื่อลูกค้าอยู่ 100 ราย...

แต่ซื้อขายจริงเพียง 10 ราย...

อ้าวเฮ้ย!...แล้วอีก 90 ร้านค้าที่เหลือมันหายไปไหน?

 

ProspectCustomer...ที่เสริชหามาได้...

ตอนนี้ได้ติดต่อแล้วหรือยัง...

หรือถ้าติดต่อแล้ว...

ลูกค้าเขานัดให้เราไปนำเสนอสินค้าได้วันไหน?

 

เห็นมั๊ยครับว่า...แค่หมายเลข “1” หมายเลขเดียว....

แม้นเราจะแน่ใจว่าเราทำงานเต็มที่แล้ว...

ยังต้องใช้เวลาตั้งนานเลย...

 

เพราะฉะนั้น...วิธีการเพิ่มยอดขายให้ง่ายที่สุด...

คือมองจากสิ่งที่เรามีปัจจุบันครับ....

 

เพราะมัน...ง่าย และรวดเร็วที่สุดครับ

ผมว่าคงเปรียบเสมือน...

เราจีบแฟนเราเองอะครับ...

เอาใจนิด....เอาใจหน่อย...

เธอก็ดีกับเราใจหายแล้ว...

ดีกว่าไปจีบพริตตี้...หรือสาวๆเชียร์เบียร์....

นอกจากว่าจะยากสุดๆแล้ว...

เรื่อง Budget ก็สูงใช่ย่อย...

สู้เอาใจแฟนเราดีกว่า...เมื่อชัวร์แล้วว่า...

เราทำได้ดีแน่ๆ...

หลังจากนั้น...

ค่อยๆทำในหมายเลขอื่นครับ....หุหุ...

บทความทั้งหมดนี้ไม่มีลิขสิทธิ์

สามารถเผยแพร่ได้ตามสะดวกครับ

-บุ้ง ดีดติ่งหู-

Marketing & Sales Consultant 

FB: @Boong.marketing

LINE ID: wichawut_boong 

email: [email protected]

website: www.underdog.run

Mobile: 089-7991949